การแข่งขันของธุรกิจในยุคปัจจุบันนี้ มีความรุนแรงมากขึ้น การขายด้วยวิธีการเดิมๆ ที่เรียกว่าSales Force Orientedอาจไม่เพียงพออีกต่อไป เพราะทุกวันนี้ นอกจากคู่แข่งขันที่เพิ่มขึ้นอย่างมากมายแล้ว ลูกค้าก็มีพัฒนาการที่ก้าวหน้าเช่นกัน มีความรู้มากขึ้น เปรียบเทียบก่อนการตัดสินใจซื้อ เป็นต้น ดังนั้น แนวทางในการขายจึงต้องให้ความสนใจและเห็นความสำคัญของลูกค้ามากขึ้น โดยมุ่งศึกษาและวิเคราะห์พฤติกรรมหรือLifestyleของลูกค้าอย่างเข้าใจ ก่อนที่จะนำเสนอขายสินค้า ซึ่งเราเรียกว่าการขายที่มุ่งเน้นลูกค้าCustomer Oriented ซึ่งนักจิตวิทยาพฤติกรรมศาสตร์ได้ศึกษาและวิเคราะห์พฤติกรรมของคน จนสามารถนำมาเป็นแนวทางในการปรับตัวให้เข้ากับสไตล์ของลูกค้าแต่ละประเภทให้นักขายเปิดการขายได้เหมาะสมเจาะจงตรงกับประเภทของลูกค้า ยังผลให้บรรยากาศการขายราบรื่นและลงเอยสู่การปิดการขายได้อย่างลงตัวนั่นเอง
วัตถุประสงค์: เพื่อให้ผู้เข้ารับการฝึกอบรม .....
1. มีหลักการในการเข้าใจพฤติกรรมลูกค้า เพื่อการนำเสนอขายและให้บริการที่เหมาะสมกับลูกค้าแต่ละประเภท
2. ประเมินบุคลิกภาพลูกค้าได้ใกล้เคียงกับตัวตนของเขาในเวลาที่รวดเร็ว ซึ่งเป็นดีต่อการขายและการบริการที่ตรงกับนิสัยลูกค้า
หัวข้อการบรรยาย:
· การวิเคราะห์พฤติกรรมลูกค้าสู่การขายที่เหนือชั้น
-เหตุผลและข้อได้เปรียบจากการวิเคราะห์พฤติกรรมลูกค้า
- วิธีการวิเคราะห์และทำความคุ้นเคยกับลูกค้าภายใน10นาทีแรกของการสนทนา
· 4C.:ทฤษฎีวิเคราะห์พฤติกรรมลูกค้า4ประเภท เพื่อเพิ่มยอดขายชนะใจลูกค้าและปิดการขายเหนือคู่แข่ง
1.C adetorลูกค้าที่มีบุคลิกภาพเชื่อมั่นตนเองสูง ชี้นำ ชอบเรื่องท้าทายและ การเปลี่ยนแปลง ใจร้อน กล้าตัดสินใจฉับพลันทันที
2.Cafe stylistลูกค้าที่มีบุคลิกภาพชอบการเข้าสังคม มีวิถีชีวิตสนุกสนาน ท่าทีตื่นตัว
กระตือรืนร้น มองโลกในแง่ดี และอารมณ์ดี มักเชื่อคนง่าย ให้ความร่วมมือ และมีความเห็นอกเห็นใจคน
3.C alm mannerลูกค้าที่มีบุคลิกภาพที่มีลักษณะนิ่งสงบ ชอบพิจารณาสิ่งต่าง ๆ อย่างรอบคอบ ไม่ค่อยแสดงท่าที เป็นผู้ฟังมากกว่าผู้ให้ข้อมูลหรือแสดงความคิดเห็น ระมัดระวัง
4.C onceptualist ลูกค้าที่มีบุคลิกภาพมั่นคง มีหลักการ ต้องการข้อมูลรายละเอียดมาก
มีการวางแผน มีเป้าประสงค์ต่อการตัดสินใจในเรื่องต่าง ๆ
· 3V.:หลักการวิเคราะห์เพื่อแยกแยะพฤติกรรมลูกค้า 4ประเภท
-Visualภาษากาย ท่าทาง การใช้มือ การนั่ง การยืน และแสดงออกทางสีหน้า
-Verbalการพูด ลักษณะวิธีการสื่อสาร เช่น ช่างพูด ถามคำตอบคำ นิ่งรับฟังมากกว่าแสดงความคิดเห็น เป็นต้น
-Vocalน้ำเสียง ลักษณะการใช้ระดับดังค่อยของเสียง ความเร็วช้าของการพูด
· สิ่งที่ต้องทำและอย่าทำในการขายกับลูกค้าแต่ละประเภท
-วิธีการที่จะเข้ากันได้ดีกับลูกค้าแต่ละประเภท (ข้อควรทำ)
-วิธีการที่ทำให้ขัดกันและขายไม่ได้กับลูกค้าแต่ละประเภท (ข้อควรระวัง)
-ปัจจัยส่งเสริมให้ขายได้ (Promotion Factors)
-ปัจจัยบั่นทอนให้ขายไม่ได้ (Demotion Factors)
· เทคนิคการฟังให้ออกว่าลูกค้าต้องการบอกอะไร เพื่อการขายที่โดนใจ
- Message of Factคืออะไร
- Message of Feelingคืออะไร
- Message of Opinion จะตอบสนองอย่างไร
· P-Q-R-S Techniques :เทคนิคการนำเสนอสารกับลูกค้า เพื่อการควบคุมทิศทางการขาย - P :เทคนิคการถอดความ เพื่อจับสัญญาณการซื้อของลูกค้าให้ได้
- Q: เทคนิคการถาม เพื่อควบคุมและล้วงสึกในความต้องการของลูกค้า
- R :เทคนิคการสะท้อนความรู้สึก เพื่อแสดงความเข้าใจในความรู้สึกของลูกค้า
- S :เทคนิคการสรุปประเด็น เพื่อการปิดการขายสู่ผลลัพธ์ที่พอใจทั้งสองฝ่าย
· 8ยุทธวิธีจัดการข้อโต้แย้งที่ได้ผลเลิศ
1. Yes but 5. Comparison
2. Why why why 6. Substitution
3. Boomerang 7. Cherry picker
4. Enclose 8. Feel-Felt-Found
· 8ยุทธวิธีปิดการขายที่ได้ผลเลิศ
1. Sign up 5. Referral
2. Balanced sheet 6. Next step
3. Two choices 7. Trap
4. Good chance 8.Dead line
คุณสมบัติของผู้เข้าอบรม
พนักงานขาย เจ้าหน้าที่การตลาด-ขาย หัวหน้าทีมขาย ผู้จัดการ
อาจารย์พรเทพ ฉันทนาวี
ประสบการณ์ทำงาน
· ผู้อำนวยการหลักสูตรพัฒนานักขาย บริษัท มหวัฒน์ เอ็นเตอร์ไพรส์ จำกัด
· ผู้อำนวยการฝ่ายพัฒนาทรัพยากรบุคคล กลุ่มบริษัท ทีซีซี แคปปิตอล กรุ๊ป
· ผู้จัดการฝ่ายฝึกอบรมการตลาดและการขาย เครือโอสถสภา
· ที่ปรึกษาและวิทยากรด้านการตลาด การขาย และการบริการ และทรัพยากรบุคคล
อ.พรเทพ ฉันทนาวี