หลักการและเหตุผล(Introduction)
การกำหนดหน้าที่งานJob Descriptionหรือใบพรรณนางาน จะต้องคำนึงถึงคุณภาพก่อนนำไปใช้เพื่อนำไปสรรหาคนให้เหมาะกับตำแหน่งงาน จะต้องมีการวิเคราะห์จุดแข็ง จุดอ่อน โอกาส และอุปสรรค เพื่อนำไปพัฒนา ดังนั้นในการเขียนJDควรกำหนดรายละเอียดให้ชัดเจน การเขียนJD นั้นไม่ควรเขียนโดยฝ่ายบุคคลเพียงฝ่ายเดียว จำเป็นจะต้องพึ่งในแต่ละส่วนงานมาเขียน HRเป็นเพียงเจ้าภาพในการเขียน JDที่ดีมีคุณภาพจะต้องสอดคล้องกับกับนโยบายขององค์กรและต้องสามารถวัดผลสำเร็จของการทำงานได้จริง และต้องสามารถประเมินผลการทำงานจากการำหนดKPI
หลักสูตร เทคนิคการวิเคราะห์เพื่อจัดทำJob Description และกำหนดKPI(ตัวชี้วัดผลงาน) เน้นการทำการวิเคราะห์ในการเขียนJDและการตั้งKPIเพื่อวัดผลการทำงานของพนักงานให้มีประสิทธิภาพ
วัตถุประสงค์ (Objective)
1. เพื่อผู้เข้าอบรมเข้าหลักปฏิบัติในการเขียนJob Descriptionเพื่อให้สอดคล้องกับตำแหน่งงาน และนโยบายขององค์กร
2. เพื่อให้ผู้เข้าอบรมนำJob Descriptionที่ดีมีคุณภาพไปปรับประยุกต์ในการทำการกำหนดตัวชีวัดผลงาน(KPIs)
3. เพื่อให้ผู้เข้าอบรมนำเทคนิคต่างๆไปพัฒนาและเพิ่มขีดความสามารถของคนในองค์กรเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน
คุณสมบัติผู้เข้าอบรม (Target Participants)
· HR มือใหม่, HRปัจจุบัน , Line Manager หัวหน้างาน หรือผู้ที่เกี่ยวข้อง
เนื้อหาการบรรยาย (Key Contents)
· การวิเคราะห์งาน (Job Analysis)
· ขั้นตอนและประโยชน์ในการวิเคราะห์งาน
· Workshop 1:การวิเคราะห์งาน (มีตัวอย่างประกอบ)
· Job Descriptionคืออะไร
· ทำไมต้องมีJob Description ?
· Job Descriptionมีข้อจำกัดอะไรบ้าง?
· ระดับเกรดพนักงาน
· ส่วนประกอบของJob Descriptionมีอะไรบ้าง?
· เทคนิคการทำJob Descriptionให้ดีมีคุณภาพ เขาทำกันอย่างไร
· Workshop 2:กิจกรรมการเขียน Job Description (มีตัวอย่างประกอบ)
· การกำหนดตัวชี้วัดผลงานKPI(Key Performance Indicator)
· KPIคืออะไร
· ประเภทของKPI (Key Performance Indicator)
· เทคนิคการกำหนดค่าเป้าหมายของKPIs เพื่อการประเมินผลงาน
· ข้อจำกัดของการใช้KPIs
· Workshop 3 :การนำKPIs มากำหนดตัวชี้วัดเพื่อการประเมินผลลงาน
· สรุปการเรียนรู้
ระยะเวลาการฝึกอบรม (Time)
· 6ชั่วโมง
รูปแบบการการอบรม (Methodology)
· การบรรยาย การสาธิต กิจกรรมการเรียนรู้ และ การอภิปรายกลุ่ม