ทักษะหัวหน้างานยุคใหม่ (Supervisory Skills)

29 พฤศจิกายน 2566


หลักการและเหตุผล

การเป็นหัวหน้างานยุคใหม่ที่จะประสบความสำเร็จตามที่ได้วางไว้ได้อย่างดี มีองค์ประกอบมากมายที่จะนำมาพิจารณาการทำงานให้บรรลุเป้าหมาย และไปในทิศทางเดียวกันนั้นจะใช้ความรู้ความสามารถเพียงด้านเดียวคงจะไม่พอต่อการถึงจุดหมายปลายทาง

การพัฒนาระดับความสามารถ (Quotient)ในด้านต่างๆ ของหัวหน้างานยุคใหม่นั้นจึงเป็นประเด็นที่สำคัญที่จะทำให้คนประสบความสำเร็จในการใช้ชีวิต และส่งให้ชีวิตการทำงานดีขึ้นไปด้วยจึงจะเรียกว่า การเป็นผู้นำและนักบริหารมืออาชีพ รวมทั้งหัวหน้างานยุคใหม่ต้องเข้าใจถึงความเปลี่ยนแปลง และพร้อมที่จะเป็นผู้นำในการเปลี่ยนแปลงเพื่อนำพาทีมงานไปสู่เป้าหมายขององค์กรที่วางไว้

การเปลี่ยนแปลงในโลกยุคปัจจุบัน เป็นการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นอย่าง รวดเร็ว กว้างขวาง และมีผลกระทบต่อทุกภาคส่วนในสังคม รวมถึงทุกองค์กร ที่ต้องปรับตัวให้เข้ากับยุคสมัย สามารถแข่งขันได้ และดำรงอยู่ได้อย่างยั่งยืนสิ่งสำคัญที่เปรียบเสมือนเป็นการเสริมสร้างทางการพัฒนาให้องค์กร คือ การที่หัวหน้างานมีทักษะของผู้นำยุคใหม่และการสร้างทีมงานที่มีการทำงานไปในทิศทางเดียวกัน มีบุคลากรที่มีทักษะทางการคิดและการสร้างสรรค์นวัตกรรมใหม่อยู่เสมอ

ดังนั้นการฝึกคนในองค์กรให้มีความคิดเชิงสร้างสรรค์และสรรหานวัตกรรมใหม่ ถือได้ว่าเป็นกุญแจไขไปสู่การปรับปรุงและพัฒนางานอย่างเป็นระบบ ซึ่งเป็นกระบวนการที่สำคัญ รองรับการพัฒนาองค์กรทั้งในปัจจุบันและอนาคต ซึ่งหลักสูตรนี้จะช่วยให้หัวหน้างานได้ฝึกฝนทักษะต่างๆ เหล่านั้น โดยเน้นการฝึกคิดออกจากกรอบประสบการณ์เดิมและสามารถนำไปประยุกต์ใช้ในการปฏิบัติงานได้จริง

กระบวนการทำงานแนวใหม่ จะช่วยให้หัวหน้างานสามารถจัดการกับความคิดได้อย่างมีระบบ มีแบบแผนทำให้เกิดนวัตกรรมใหม่ๆ ที่มีประสิทธิภาพในทุกๆ ด้านในที่สุด เพราะฉะนั้นหัวหน้างานยุคใหม่จึงต้องเข้าใจภาวะผู้นำในยุคใหม่ และการสร้างทีมงานที่มีคุณภาพ เพื่อให้ได้เปรียบในการแข่งขันทางธุรกิจและให้ธุรกิจยั่งยืนต่อไป

 การพัฒนาหัวหน้างานยุคใหม่ ให้มีภาวะผู้นำนั้น จำเป็นต้องให้ความสำคัญกับ ทั้ง4 ด้าน  อันได้แก่

1.มีความรู้ความสามารถในงานและการจัดการแก้ไขปัญหา
2.
มีทักษะการคิดเชิงกลยุทธ์
3.
มีการพัฒนาทักษะภาวะผู้นำและการสร้างทีมงานที่มีคุณภาพ

4.มีภาวะผู้นำกับการเปลี่ยนแปลงและการสร้างนวัตกรรมได้

หัวหน้างานยุคใหม่ที่มีประสิทธิภาพ รวมทั้งมีภาวะผู้นำและการสร้างานทีมงานที่มีคุณภาพ จะทำให้รู้จักตัวเองรู้จักพนักงาน,รู้จักองค์กรและมีทัศนคติเชิงบวก ทำให้การบริหารงานและทีมงานได้ตรงตามเป้าหมายที่ตั้งไว้ได้อย่างสัมฤทธิผลสำคัญโดยง่าย และเมื่อพัฒนาทีมงานโดยจัดการทำเอง จัดการพนักงาน จัดองค์การให้เหมาะสมและบริหารอย่างสร้างสรรค์แล้ว ก็จะกลายเป็นผู้นำและนักบริหารมืออาชีพที่ทรงคุณค่า

การพัฒนาระดับความสามารถในด้านต่างๆ ที่สำคัญ ของหัวหน้างานยุคใหม่นั้น จึงเป็นแนวทางที่องค์กรส่วนใหญ่อยากให้เกิดขึ้นกับผู้นำในองค์กรของตัวเองโดยการทำให้ผู้นำมี 5Qที่สูงขึ้น

IQ :ทักษะการคิดแก้ปัญหาอย่างฉลาด

EQ :การจัดการอารมณ์เชิงลบของตัวเอง

AQ :การเปลี่ยนอุปสรรคให้เป็นโอกาสที่ท้าทาย

OQ :การแสดงผลงานที่มีคุณค่า

UQ :การเป็นบุคคลที่มีจริยธรรมอันดี

          การประยุกต์ใช้แนวทางบริหารจัดการ Q (Quotient)ต่างๆ กับเป้าหมายในชีวิตหรืองานที่ได้รับ รวมถึงสภาพแวดล้อมในการปฏิบัติงาน ย่อมทำให้ผู้นำสามารถพิชิตเป้าหมายของตัวเอง และมีความสัมพันธ์ที่มีต่อบุคคลรอบข้าง  รวมถึงการเป็นผู้นำที่มีจิตใจที่ดีขององค์กรและเข้าใจภาวะผู้นำกับการเปลี่ยนแปลงและการสร้างนวัตกรรมได้เป็นอย่างดี จะทำให้องค์กรประสบความสำเร็จอย่างแน่นอน

การเรียนรู้และนำแนวทางไปปรับปรุงเปลี่ยนแปลงตัวเองอย่างเข้าใจแนวทาง 5Qนั้น จะทำให้ผู้นำได้ใช้ศักยภาพที่มีอยู่แล้วอย่างเต็มที่และเต็มกำลัง นั่นก็หมายความว่าจะนำไปสู่การเปลี่ยนแปลงวิธีปฏิบัติงานของแต่ละบุคคลที่ดีขึ้น จึงทำให้เกิดผลงานที่มีประสิทธิผลมากยิ่งขึ้น

โดยที่ Qแต่ละตัวจะสอดคล้องกันและทำงานร่วมกันอย่างเป็นระบบ โดยมีหลักของสมาธิเข้าไปเป็นพื้นฐานของสิ่งเหล่านี้จะทำให้เป็น5Qแบบยั่งยืนแล้วเป็นต้นแบบเพื่อองค์กรหรือหน่วยงานต่างๆ ได้นำไปปรับใช้ให้เข้ากับวัฒนธรรมขององค์กรตัวเอง

วัตถุประสงค์

1.      เพื่อให้ผู้เข้าอบรมได้สร้างมุมมองการอยู่ร่วมกันที่แตกต่างแต่ไม่แตกแยกของผู้นำ โดยรู้จักตนเองและเข้าใจผู้อื่น สามารถปรับเปลี่ยนกระบวนการคิด เพิ่มประสิทธิผลของการสื่อสาร และสร้างความสัมพันธ์ที่ดีระหว่างตนเองกับผู้ใต้บังคับบัญชาได้อย่างลงตัว

2.      เพื่อให้ผู้เข้าอบรมได้เกิดการเรียนรู้กระบวนการของ5Q ของผู้นำที่ดีที่มีภาวะของผู้นำ และนำไปสู่การปฏิบัติอย่างมีรูปแบบและเห็นผล มีมุมมองปัญหาและอุปสรรคของงานที่เจออยู่ด้วยมุมมองใหม่ๆ สามารถนำวิธีการ5Q ของผู้นำมาใช้ในการแก้ปัญหาได้อย่างเหมาะสม

3.      เพื่อให้ผู้เข้าอบรมได้เข้าใจหลักการบริหารทีมที่จะให้กลายเป็นสุดยอดทีมพร้อมทั้งการสร้างขวัญและกำลังใจในการทำงาน

4.      เพื่อให้ผู้เข้าอบรมได้เข้าใจการสื่อสารอย่างมีประสิทธิภาพของผู้นำ และการอยู่ร่วมกันอย่างมีความสุข อันได้แก่ การละลายพฤติกรรมระหว่างหัวหน้างานและลูกน้อง

5.      เพื่อให้ผู้เข้าอบรมได้ค้นพบ "ตัวตน" ของผู้นำในแบบฉบับที่แท้จริงของตนเอง สามารถนำพาตนเองและองค์กรที่มีความหลากหลายไปสู่จุดหมายที่ตั้งไว้

6.      เพื่อให้ผู้เข้าอบรมได้เข้าใจหลักของ5Qผ่านกิจกรรมดังต่อไปนี้

o  สนุกกับการใช้IQ (Intelligence Quotient)แก้ปัญหาต่างๆ

o  พัฒนาความฉลาดทางอารมณ์EQ (Emotional Quotient)

o  ก้าวข้ามอุปสรรคAQ (Adversity Quotient)อย่างกล้าหาญ

o  แสดงผลงานอย่างมีคุณค่าด้วยความเป็นเจ้าของOQ (Optimist Quotient)

o  พัฒนาตนเองเพื่ออยู่ร่วมกับสังคมUQ (Unity Quotient)  อย่างมีความสุข

 ลักษณะของการอบรม

เป็นการเรียนรู้เนื้อหาวิชาการ ผ่านWork Shopและกิจกรรมต่างๆ โดยใช้เครื่องมือที่เรียกว่า5Q (IQ EQ OQ AQ UQ ) และODที่หลากหลายประเภทผสมผสานกัน เพื่อเชื่อมโยงเนื้อหาทางวิชาการให้เข้าใจได้ง่าย สามารถนำไปปรับใช้กับการปฏิบัติงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ

 

วิธีการ

1.      บรรยายเนื้อหาวิชาการประกอบการทำWork Shopและกิจกรรมกลุ่ม ในอัตราส่วน เนื้อหาวิชาการ70 : Work Shopกิจกรรม30

2.      การใช้เครื่องมือทางด้าน5QและOD toolsและเทคนิคการฝึกอบรมหลายประเภท เช่น

·        Ai (Appreciative Inquiry)

·        Dialogueสุนทรียะสนทนา

·        เกมพฤติกรรม

·        Work Shop

·        การระดมความคิดด้วย5Q

·        Clip VDOและอื่นๆ

 หัวข้อสำคัญในการเรียนรู้

·        หลักและวิธีการจัดการงานและคนอย่างมีประสิทธิภาพด้วย 5Q

o  ใครคือคนที่องค์กรต้องการ

o  บทบาทหน้าที่ของหัวหน้างาน

o  ทฤษฎีพฤติกรรมมนุษย์เพื่อการจัดการ (การเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงาน)

·        Teamwork (การทำงานเป็นทีม)

·        Achievement Motivation (แรงจูงใจสู่ความสำเร็จ)

·        Accountability (ความรับผิดชอบอย่างผู้นำ) ซึ่งประกอบไปด้วย

·        มีวิสัยทัศน์ (Visioning Goal Setting & Leading others )

·        มีทักษะการจัดการกับการเปลี่ยนแปลง (Change Management Skills)

·        สอนงานเป็นและพัฒนาตัวเองอยู่เสมอ (Coaching & Develop others)

·        มีแนวกรอบแนวคิดในการทำงาน (Conceptual Thinking)

·        มีทักษะการบริหารจัดการทรัพยากรของ (Resource Management Skill)

·        กล้าตัดสินใจ (Decision Making)

·        มีทักษะการบริหารจัดการลูกน้อง (People Management Skills)

·        สามารถจูงใจลูกน้องได้ (Motivate Subordinate)

·        การบริหารความเสี่ยง (Risk Management)

·        การบริหารความขัดแย้งภายในองค์กร (Conflict Management) 

·        Continuous Learning (การเรียนรู้อย่างต่อเนื่อง)

·        Creativity (ความคิดสร้างสรรค์)

o  เรียนรู้คน จากโมเดลผู้นำ4ทิศ 

·        การสร้างแรงผลักดันให้ลูกน้องทำงานและมุ่งมั่นทำงานให้บรรลุเป้าหมาย

o  ทฤษฎีการสร้างแรงจูงใจ ในการทำงาน

·        เรียนรู้ทักษะการบริหารจัดการงานโดยสามารถวางแผนงานที่รับมอบหมาย สั่งงาน ติดตาม ความคุม และแก้ไข ปัญหาเบื้องต้น และรายงานผู้บังคับบัญชาได้อย่างมีประสิทธิภาพ

 

หัวข้อการอบรม (Topics)

ประเด็นสำคัญในการเรียนรู้ (Key Points)

ช่วงที่1รู้คน

·      ละลายพฤติกรรม ทำความรู้จักOpen Mind

·      นำเข้าสู่เนื้อหาหลักสูตรภาวะผู้นำกับการเปลี่ยนแปลงและการสร้างนวัตกรรม

·       5Qคืออะไร

·      การพัฒนาตนเองเพื่อเสริมสร้างมนุษย์สัมพันธ์ที่ดีด้วย 5Q

·      รู้จักตนเองเพื่อเข้าใจผู้อื่นด้วย 5Q

·      ใครคือคนที่องค์กรต้องการ?

·      บทบาทหน้าที่ของหัวหน้างาน

·      ทฤษฎีพฤติกรรมมนุษย์เพื่อการจัดการ

·       Work Shopเรียนรู้คน จากโมเดลสัตว์4ทิศ

 

ช่วงที่2 :รู้งาน (เข้าใจงาน)

Work Shop 1 (การมองปัญหาด้วย5Q)

·      ทฤษฎีแรงจูงใจเพื่อการจัดการ

·      เรียนรู้วงจรเดมิง Deming Cycle/วงจรชูฮาร์ต (Shewhart Cycle)คือวงจรการควบคุมคุณภาพ

ช่วงที่3:รู้งาน (เข้าถึงงาน)

Work Shop2 (การแก้ปัญหาด้วย5Q)

·      การทำงานแบบ โฮ (HO)เรน (REN)โซ (SOU)การรายงาน-การติดต่อ-การปรึกษา

·      การวางแผน

·      การมอบหมายสั่งงาน

ช่วงที่4 :รู้ความต้องการขององค์กร

ช่วงที่4 :รู้ความต้องการขององค์กร

·      อะไรคือสิ่งที่องค์กรต้องการ

·      สรุปประเด็นสำคัญและเข้าทำความเข้าใจการบริหารแบบ 5Qอย่างลึกซึ้ง

·       Q&Aพร้อมแลกเปลี่ยน แชร์ประสบการณ์จริงจากวิทยากร

·      สร้างคุณค่าการทำงานร่วมกัน Commitmentอำลา

·      การประยุกต์กับการทำงานได้อย่างสัมฤทธิผลด้วย 5Q

·      ทัศนคติที่ดีในการทำงาน

·       Work Shop

·      ผ่านกิจกรรมกลุ่ม 4-5กิจกรรม

·      ระดมสมอง และแชร์ความคิดเรื่องภาวะผู้นำกับการเปลี่ยนแปลงและการสร้างนวัตกรรม

 ประโยชน์ที่ได้รับจากการฝึกอบรม

 1.ผู้เข้าอบรมได้สร้างมุมมองการอยู่ร่วมกันที่แตกต่างแต่ไม่แตกแยกของผู้นำ โดยรู้จักตนเองและเข้าใจผู้อื่น สามารถปรับเปลี่ยนกระบวนการคิด เพิ่มประสิทธิผลของการสื่อสาร และสร้างความสัมพันธ์ที่ดีระหว่างตนเองกับผู้ใต้บังคับบัญชาได้อย่างลงตัว

2.ผู้เข้าอบรมได้เกิดการเรียนรู้กระบวนการของ5Q ของผู้นำที่ดีที่มีภาวะของผู้นำ และนำไปสู่การปฏิบัติอย่างมีรูปแบบและเห็นผล มีมุมมองปัญหาและอุปสรรคของงานที่เจออยู่ด้วยมุมมองใหม่ๆ สามารถนำวิธีการ5Q ของผู้นำมาใช้ในการแก้ปัญหาได้อย่างเหมาะสม

3.ผู้เข้าอบรมได้เข้าใจหลักการบริหารทีมที่จะให้กลายเป็นสุดยอดทีมพร้อมทั้งการสร้างขวัญและกำลังใจในการทำงาน

4.ผู้เข้าอบรมได้เข้าใจการสื่อสารอย่างมีประสิทธิภาพของผู้นำ และการอยู่ร่วมกันอย่างมีความสุข อันได้แก่ การละลายพฤติกรรมระหว่างหัวหน้างานและลูกน้อง

5.ผู้เข้าอบรมได้ค้นพบ "ตัวตน" ของผู้นำในแบบฉบับที่แท้จริงของตนเอง สามารถนำพาตนเองและองค์กรที่มีความหลากหลายไปสู่จุดหมายที่ตั้งไว้

6.ผู้เข้าอบรมได้เข้าใจหลักของ5Qผ่านกิจกรรมดังต่อไปนี้

·     สนุกกับการใช้IQ (Intelligence Quotient)แก้ปัญหาต่างๆ

·     พัฒนาความฉลาดทางอารมณ์EQ (Emotional Quotient)

·     ก้าวข้ามอุปสรรคAQ (Adversity Quotient)อย่างกล้าหาญ

·     แสดงผลงานอย่างมีคุณค่าด้วยความเป็นเจ้าของOQ (Optimist Quotient)

·     พัฒนาตนเองเพื่ออยู่ร่วมกับสังคมUQ (Unity Quotient) อย่างมีความสุข

 

 รูปแบบหลักสูตร

1.การบรรยาย                                            30 %

2.เกมส์ / กิจกรรมกลุ่ม / ฝึกปฏิบัติWorkshop    70%


สถานที่อบรม (VENUE)

@ Novotel Bangkok Hotel ซอยสุขุมวิท 20 ใกล้ BTS อโศก กรุงเทพฯ ** สถานที่อาจมีการเปลี่ยนแปลง

วันและเวลาอบรม (DATE AND TIME)

29 พฤศจิกายน 2566 09.00-16.00 น.

จัดโดย

ดีทีเอ็นเทรนนิ่ง (dtntraining)
เบอร์ติดต่อ : 096-669-5554 ,090 645 0992

ค่าธรรมเนียม (FEE)

3900 (ไม่รวม ภาษีมูลค่าเพิ่ม 7%)

ผู้เข้าชม: 227 ครั้ง