หลักการและเหตุผล
ปัจจุบันทุกอุตสาหกรรมต้องอาศัยเครื่องจักรเป็นปัจจัยหลักในการผลิต ซึ่งหาก เครื่องจักรเกิดการขัดข้องเดินไม่เต็มสมรรถนะ หรือหยุดเสียหายเหนือการคาดการณ์ย่อมส่งผลกระทบต่อการส่งมอบที่ล่าช้าและคุณภาพของผลิตภัณฑ์ที่ลดลง อีกทั้งยังส่งผลกระทบต่อขวัญและกำลังใจของพนักงานอันเนื่องมาจากการควบคุมเครื่องจักรที่ไม่ปลอดภัยและผลิตงานที่ไม่ได้คุณภาพหรือของเสียนั่นเอง ในขั้นที่สูงขึ้นในการบำรุงรักษาคือ การบำรุงรักษาเชิงป้องกัน (Preventive maintenance)คือการบำรุงรักษาตามคำแนะนำหรือคู่มือของผู้ผลิตเครื่องจักรเป็นหลัก โดยจะต้องมีการวางแผนและกำหนดระยะเวลาการหยุดเครื่องจักรในการเปลี่ยนชิ้นส่วนเพื่อป้องกันปัญหาที่จะเกิดขึ้นจากชิ้นส่วนนั้น ๆ ซึ่งระยะเวลาเหล่านี้มักจะเป็นค่าประมาณการโดยอ้างอิงจากค่าทางสถิติของอายุใช้งานเฉลี่ยของชิ้นส่วนเครื่องจักร (mean time between failure : MTBF)ที่มาจากผู้ผลิตชิ้นส่วน แต่ในบางกรณี ผู้ใช้งานหรือผู้ทำการซ่อมบำรุงอาจจำเป็นต้องกำหนดขึ้นเองตามความเหมาะสมกับสภาพการทำงานที่แท้จริง เพราะอาจไม่สามารถระบุ หรือไม่มีข้อมูลจากผู้ผลิต หรือมีการใช้งานในสภาวะที่แตกต่างไปจากคู่มือเครื่องจักร แต่วิธีการบำรุงรักษาเชิงป้องกันนี้ก็ยังไม่สามารถรับรองได้ว่าเครื่องจักรจะไม่มีการชำรุดเสียหายภายหลังการบำรุงรักษา นอกจากนี้ ผู้ใช้งานเครื่องจักรยังต้องมีการจัดหาอะไหล่ใหม่มาทำการเปลี่ยนตามเวลาโดยเป็นไปได้ว่า ชิ้นส่วนเครื่องจักรเดิมที่ถูกถอดเปลี่ยนยังคงสามารถใช้งานได้อยู่
|
วัตถุประสงค์ของหลักสูตร |
1.เพื่อให้ผู้เข้าอบรมสามารถเพิ่มประสิทธิภาพในการผลิตและการบริการซ่อมบำรุง 2.เพื่อให้ผู้เข้าอบรมมีแนวคิดในการลดความสูญเสียของเครื่องจักรในระบบการผลิ |
3.ตระหนักถึงความสำคัญของการบำรุงรักษา ที่จะส่งผลกระทบต่อสถานประกอบการทั้งด้านคุณภาพ ต้นทุน และการส่งมอบ 4.เข้าใจหลักการและขั้นตอนการทำ Preventive Maintenance 5.เพื่อให้ความรู้และสามารถวางแผน Preventive Maintenanceโดยการใช้ค่าMTBF (Mean Time Between Failure)
หัวข้อการอบรม |
1.แนวคิดในการเพิ่มประสิทธิภาพการผลิต 2.ความสูญเสียหลัก6ประการของเครื่องจักร 3.ความเป็นมาและแนวคิดของระบบการบำรุงรักษา 4.ความสำคัญของระบบการบำรุงรักษา 5.โครงสร้างและหน้าที่ของการบำรุงรักษา 6.รู้จักกับความหมายและการบำรุงรักษาแบบต่าง ๆ o การบำรุงรักษาด้วยตนเอง (Autonomous Maintenance) o การปรับปรุงเฉพาะเรื่อง (Individual Improvement) o การบำรุงรักษาเชิงวางแผน (Planned Maintenance) o การบำรุงรักษาเชิงคุณภาพ (Quality Maintenance) o การบำรุงรักษาทวีผล (Productive Maintenance) 7.ขั้นตอนการทำPreventive Maintenance o เตรียมการและเก็บข้อมูล o วิเคราะห์ข้อมูล o กำหนดมาตรฐาน o จัดทำแผนPreventive Maintenance o ควบคุมและวัดผล 8.Visual Controlเพื่อการตรวจสอบเครื่องจักร 9.การบำรุงรักษาเชิงพยากรณ์ 10.การบำรุงรักษาตามเวลา:TBM 11.การบำรุงรักษาตามสภาพ:CBM 12.การวัดประสิทธิภาพและวิเคราะห์การใช้งานเครื่องจักรร่วมกันด้วยค่า OEE, MTBF, MTTR 13.การแก้ไขปัญหาในการซ่อมบำรุงด้วยCause-Effect Diagram , Tree Diagram , Relation Diagram 14.การระดมสมองเพื่อช่วยประเมินผลบำรุงรักษาตามแผน - Work ShopการทำแผนPreventive Maintenance -นำเสนอแผนPreventive Maintenance
|
กลุ่มเป้าหมาย |
หัวหน้างาน ช่างเทคนิค พนักงาน และผู้ที่สนใจทั่วไป |
รูปแบบการสัมมนา |
1.การบรรยาย40 % |
ประโยชน์ที่คาดว่าจะได้รับ |
1.พนักงานมีความรู้ ความเข้าใจเกี่ยวกับแนวทางการซ่อมบำรุงเชิงป้องกัน 2.พนักงานเข้ามามีส่วนร่วมในการพัฒนาปรับปรุงเครื่องจักรเพื่อยกระดับคุณภาพและประสิทธิภาพในการทำงานอย่างต่อเนื่อง 3.สามารถประยุกต์ใช้ในการทำงานและขยายผลภายในองค์กรต่อไป 4.พนักงานสามารถประยุกต์ใช้เทคนิคการปรับปรุงเครื่องจักร และควบคุมการใช้งานอะไหล่ร่วมกัน |
Click เข้าไปดูหัวข้ออบรมได้ที่นี่
กรอกใบสมัครผ่านระบบonline Click เลย
Clickเพื่อดูหลักสูตรเดือนธันวาคม 2567
รับจัดอบรมInhouse Trainingทุกหลักสูตรและจัดอบรมกิจกรรมกีฬาสี Team Building
สถานที่ โรงแรมโกลด์ออร์คิดกรุงเทพ ถนนวิภาวดีรังสิต แขวงสามเสนใน เขตพญาไท**สถานีอาจมีการเปลี่ยนแปลง
20 มกราคม 2568 09.00-16.00 น.
ดีทีเอ็นเทรนนิ่ง
เบอร์ติดต่อ : 096-669-5554 ,064-325-4946
3900 (ไม่รวม ภาษีมูลค่าเพิ่ม 7%)