การบริหารผลงานให้ได้ประสิทธิภาพ

17 สิงหาคม 2563

ความสำเร็จขององค์กรที่เติบโตได้อย่างมั่นคงและยั่งยืน ไม่เพียงแค่การมีทิศทางและกลยุทธ์การจัดการที่ดีเท่านั้น แต่ผู้บริหารจะต้องสามารถบริหารทรัพยากรมนุษย์ให้เป็น ซึ่งคำว่า "เป็น" ในที่นี้ ไม่ได้หมายถึง การรีดเอาผลงานให้ได้มาก แต่เป็นเรื่องของการสร้างความชัดเจนในเป้าหมายการทำงานให้กับพนักงาน การจูงใจ การสอนงาน การประเมินผลงาน การแจ้งผล และให้ค่าตอบแทนที่เป็นธรรม

          

จากกระบวนการที่กล่าวมาข้างต้น หัวใจสำคัญของระบบการบริหารทรัพยากรมนุษย์ คือ "การรู้จักพนักงานของตนเองให้มากที่สุด" เพราะหากรู้ให้มากแล้ว เรื่องอื่นๆ ก็ดูเหมือนจะง่ายเสียเหลือเกิน เช่น เมื่อรู้ว่าลูกน้องของตนเก่งในเรื่องใด ก็ย่อมที่จะสามารถมอบหมายภารกิจสำคัญได้อย่างง่ายดาย ต่อมาก็สามารถจูงใจให้ทำผลงานได้เพิ่มมากขึ้น หรือจะรักษาให้อยู่กับองค์กรได้อย่างยาวนาน ทั้งหมดล้วนมีที่มาจากคำเดียวกัน คือ การเข้าใจพนักงานของตนเอง และใช้ประโยชน์จากความเข้าใจนั้นในการจูงใจ สอนงาน และติดตามผล ซึ่งวิธีที่จะทำให้ผู้บริหารเข้าใจลูกน้องของตนเองได้อย่างดี ก็คือ การใช้เครื่องมือที่เรียกว่า "การบริหารผลงาน"

 

วัตถุประสงค์ในการฝึกอบรม

1.เพื่อให้ผู้เข้าอบรมมีความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับแนวคิดและหลักการบริหารผลงานในรูปแบบต่างๆ

2.เพื่อให้ผู้เข้าอบรมเข้าใจถึงเทคนิค และเครื่องมือการบริหารผลงานให้เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ 

3.เพื่อให้ผู้เข้าอบรมมีทักษะในการแจ้งผลการปฏิบัติงานกับผู้ใต้บังคับบัญชา 

4.เพื่อให้ผู้เข้าอบรมสามารถนำหลักการเกี่ยวกับการบริหารผลงานไปประยุกต์ใช้กับการบริหารผู้ใต้บังคับบัญชาของตนเองได้อย่างเหมาะสมสอดคล้องกับวัฒนธรรมองค์กร 

ประโยชน์ที่คาดว่าจะได้รับ 

การจัดฝึกอบรมครั้งนี้จะส่งผลให้แต่ละส่วนได้รับประโยชน์ ดังนี้     

1.บริษัทมีแนวทางการบริหารผลงานที่ชัดเจน และสามารถสื่อสารให้พนักงานรับทราบได้โดยง่าย 

2.พนักงานในระดับต่างๆ เข้าใจวิธีการบริหารผลงาน เข้าใจงานและบทบาทหน้าที่ของตนเอง และรับทราบว่าการทำงานของตนมีส่วนช่วยให้บริษัทประสบความสำเร็จได้อย่างไร 

3.สร้างความเป็นธรรมในการทำงานให้กับพนักงานและมีส่วนช่วยจูงใจให้พนักงานทำงานในระดับที่สูงขึ้นได้อย่างต่อเนื่อง 

ผู้เข้าอบรม

1.ได้รู้ว่าตนเองมีความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับการบริหารผลงานมาก/น้อยเพียงใด อะไรคือจุดที่ยังเข้าใจได้ไม่รอบด้าน (Improvement Area)อะไรคือจุดที่ตนเองเข้าใจถูกต้องแล้ว (Strengthen Area) 

2.ได้ต่อยอดองค์ความรู้ และเกิดความเชื่อมั่นต่อการปฏิบัติได้มากขึ้น 

3.มีความเชี่ยวชาญในการใช้และพัฒนาเครื่องมือต่าง ๆ เห็นมุมมองที่แตกต่าง เพื่อนำไปต่อยอดสำหรับการปรับปรุงและพัฒนาการบริหารผลงานได้อย่างดีเยี่ยมต่อไป 

 

รูปแบบการเรียนรู้    

       เป็นการฝึกอบรมแบบเข้มข้น (Intensive Learning Course)ผ่านวิธีการเรียนรู้ที่หลากหลาย ซึ่งได้แก่ การบรรยาย การยกกรณีตัวอย่าง (Example Case)ทั้งที่ล้มเหลวและประสบความสำเร็จ การลงมือปฏิบัติ (Workshop)การเรียนรู้ผ่านเกมและกิจกรรม เพื่อให้การเรียนรู้เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยในระหว่างการเรียนรู้ และหลังการเรียนรู้ไปแล้ว ผู้เรียนยังสามารถสอบถามหรือขอคำปรึกษาจากวิทยากรได้ตลอดระยะเวลา 

 

สัดส่วนของรูปแบบการเรียนรู้ 

oบรรยาย กรณีศึกษา กรณีตัวอย่าง40% 

oฝึกปฏิบัติ40 % 

oเกมและกิจกรรม10% 

oถามตอบ-แลกเปลี่ยนประสบการณ์ 10%

 

หัวข้อการฝึกอบรม

§นิยาม ความหมาย ความจำเป็นที่ต้องมีการบริหารผลงาน 

§วิวัฒนาการของการบริหารผลงาน ตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน: ข้อดี ข้อเสีย และการเปลี่ยนแปลง 

§ผลลัพธ์ที่ผู้บริหารอยากเห็นจากการบริหารผลงาน 

§กระบวนการบริหารผลงาน   

§แบบฟอร์มการประเมิน และการคำนวณผลคะแนนของบริษัทต่างๆ 

§วิธีการแจ้งผลการประเมินอย่างสร้างสรรค์ 

§การเชื่อมโยงผลประเมินกับการขึ้นเงินเดือน การพัฒนาบุคลากร การเลื่อนตำแหน่ง และการรับพนักงานใหม่ 

ฝึกปฏิบัติ

§การจัดทำ/ทบทวนเป้าหมายการทำงานของพนักงาน 

§การมอบหมายงาน และการสอนงาน 

ฝึกปฏิบัติ

§การติดตามผลงานอย่างเข้าใจ 

§การประเมินความก้าวหน้าของผลงาน 

§สรุปการเรียนรู้ทั้งวัน

 

ดร.สันติชัย  อินทรอ่อน

 

โรงแรมเซนต์เจมส์ สุขุมวิท ซ.26

 

บุคคลทั่วไป ท่านละ3,900บาท

สมาชิก ท่านละ3,500บาท

ลงทะเบียน3ท่านขึ้นไป ท่านละ 3,200บาท

ลงทะเบียน5ท่านขึ้นไป ท่านละ 2,900บาท

**ราคายังไม่รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม7%**


บริษัท เคเอ็นซี เทรนนิ่ง เซ็นเตอร์ จำกัด
เลขที่ 98/83 หมู่ที่ 4ตำบลบึงยี่โถ อำเภอธัญบุรี จังหวัดปทุมธานี12130

www.knctrainingcenter.com

[email protected]
โทร. :02-157-9083,062-315-5283

วิทยากร

ดร.สันติชัย อินทรอ่อน



สถานที่อบรม (VENUE)

โรงแรมเซนต์เจมส์

วันและเวลาอบรม (DATE AND TIME)

17 สิงหาคม 2563 09.00-16.00

จัดโดย

บริษัท เคเอ็นซี เทรนนิ่ง เซ็นเตอร์ จำกัด
เบอร์ติดต่อ : 02-157-9083, 062-315-5283

ค่าธรรมเนียม (FEE)

3900 (ไม่รวม ภาษีมูลค่าเพิ่ม 7%)

ผู้เข้าชม: 569 ครั้ง