หลักสูตรการจัดทำJob Descriptionและการนำไปใช้ในงานแบบมืออาชีพ
Effective Job Description & Implementation
หัวข้อเรียนรู้และฝึกอบรม
1. +ความสำคัญของ JOB DESCRIPTION
2. การนำ JOB DESCRIPTIONไปใช้ใช้ในบริหารงานบุคคล
- การวิเคราะห์อัตรากำลัง (WORKFORCE ANALYSISIS)
- การสรรหาและคัดเลือก (RECRUITMENT & ION)
- การฝึกอบรมพัฒนาบุคลากร (TRAINING & DEVELOPMENT)
- การจัดทำ SKILLS MATRIXหรือCOMPETENCY เพื่อประเมินผลการปฏิบัติงาน(PERFORMANCE APPRAISAL)เป็นต้น
3. ผู้ที่มีหน้าที่เกี่ยวข้องกับการจัดทำ JOB DESCRIPTION
4. ความแตกต่างระหว่าง JOB DESCRIPTIONและFUNCTIONAL DESCRIPTION
5. การวิเคราน (JOB ANALYSIS)เพื่อจัดทำ JOB DESCRIPTION
- แนวทางการวิเคราะห์งานอย่างง่าย
- ฝึกปฏิบัติ : วิเคราะห์งานตามตัวอย่างที่กำหนดให้
6. ส่วนประกอบที่ควรมีของ JOB DESCRIPTION
- ชื่อตำแหน่ง และสังกัด
- หน้าที่รับผิดชอบอย่างย่อ
- หน้าที่รับผิดชอบ (หน้าที่งานหลัก,กิจกรรมงานหลัก)
- ผลลัพธ์ที่คาดหวังจากกิจกรรมงานหลัก
- รายการความรู้ ขอบข่ายของความรู้ ทักษะ และคุณลักษณะเชิงพฤติกรรมตามตำแหน่ง
- ตัวชี้วัดผลลัพธ์ของงานสองระดับ
- คุณสมบัติตามตำแหน่งงานอื่นๆ
7. ขั้นตอนการจัดทำ JOB DESCRIPTION
- กำหนด/ทบทวนหน้าที่ของตำแหน่งงาน
- วิเคราะห์งานและกำหนดหน้าที่งานหลัก/หน้าที่งานรอง
- กำหนดตัวชี้วัดผลงาน และตัวชี้วัดผลงานหลัก (KPIS)
- กำหนดคุณสมบัติของตำแหน่งงานตามหน้าที่งาน พร้อมฝึกปฏิบัติและข้อแนะนำ
8. ปัญหาและอุปสรรคของการจัดทำ JOB DESCRIPTIONพร้อมข้อแนะนำในการแก้ไขสำหรับ HRและหัวหน้างานที่จัดทำ
- สรุปการเรียนรู้
ประเภทองค์กร/ผู้เข้ารับการฝึกอบรบรม :
หลักสูตรนี้ เหมาะกับองค์กรทั้งภาครัฐ รัฐวิสาหกิจและเอกขนโดยผู้เข้ารับการอบรมที่สามารถเข้าร่วมเรียนรู้ได้แก่
- HRทั้งมือใหม่และที่มีประสบการณ์
- หัวหน้างานและผู้จัดการทั้งมือใหม่และที่มีประสบการณ์
- ผู้ประกอบการ SMEที่ต้องการเรียนรู้เพื่อนำไปปรับใช้ในองค์การต่อไป
ทุกหลักสูตรสามารถจัดอบรมแบบ Inhouse training ได้
คุณสมบัติของผู้เข้าอบรม
HR ทั้งมือใหม่และที่มีประสบการณ์ - หัวหน้างานและผู้จัดการทั้งมือใหม่และที่มีประสบการณ์
ดร.ชัชวาล อรวงศ์ศุภทัต