การพัฒนาและเพิ่มศักยภาพให้กับบุคลากรมีด้วยกันอยู่หลายวิธี แต่ถ้าหากจะกล่าวถึงวิธีที่ดีสุด คงจะต้องปฏิเสธไม่ได้ว่าเป็นวิธี "การสอนแนะในงาน" เพราะการสอนแนะในงานถือเป็นการถ่ายทอดทั้งด้าน ทักษะ ความรู้ ความสามารถ ประสบการณ์ และเทคนิคต่างๆ ที่เกิดขึ้นในการทำงานให้กับผู้ใต้บังคับบัญชา หรือ ผู้ที่รับการถ่ายทอดโดยตรง ซึ่งส่วนใหญ่แล้วจะถูกถ่ายทอดออกไปในรูปแบบของการทำ "การจัดฝึกอบรมในงาน หรือที่เรียกกันติดหูว่า OJT (On the Job Training"หรือ การจัดฝึกอบรมภายในหน่วยงาน (In-house Training)แต่เป้าหมายของการถ่ายทอดนั้น จะไม่ประสบผลสำเร็จตรงตามความคาดหวังเลย หากว่าบุคลากรที่มีศักยภาพและความสามารถในการทำงานที่ดีเลิศ ไม่สามารถเป็นผู้ฝึกสอนและผู้ถ่ายทอดความรู้ต่างๆ ได้ดีตามไปด้วย และนี่คือปัญหาที่พบบ่อยครั้ง คือ ผู้จัดการ, หัวหน้างาน หรือผู้รับผิดชอบในการสอนและถ่ายทอดความรู้ต่างๆ นั้น ไม่สามารถถ่ายถอดทักษะ ความรู้ ประสบการณ์ แนวทางต่างๆ ที่ดีเลิศให้กับผู้รับฟัง ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งส่งผลให้เป็นอีกหนึ่งปัจจัย ที่ถือเป็นอุปสรรคในการพัฒนาศักยภาพของบุคลากรขององค์กร
ดังนั้น ปัจจัยที่จะทำให้ประสบความสำเร็จในการถ่ายทอดความรู้ ผ่านการเป็นผู้ฝึกสอน หรือวิทยากรภายในองค์กร จึงขึ้นอยู่ที่ผู้จัดการ หัวหน้างาน รวมทั้งผู้เกี่ยวข้องที่เป็นKey Personขององค์กร หรือผู้ที่ได้รับมอบหมายให้มีหน้าที่เป็นผู้ฝึกสอนหรือวิทยากรภายในองค์กร จะต้องสามารถ ที่จะสื่อสาร แนะนำ ถ่ายทอดทักษะ ความรู้ และประสบการณ์ ให้บุคลากรในองค์กรด้วยเทคนิค วิธีการที่ถูกต้องและมีประสิทธิภาพ เพื่อให้ผู้เข้ารับฟังทุกระดับ มีความรู้ ความเข้าใจ มีทักษะและทัศนคติ ตรงตามเป้าหมายและวัตถุประสงค์ที่ต้องการนำเสนอ และพร้อมจะร่วมกันสร้างคุณภาพและมาตรฐานในการทำงานขององค์กร ให้มีประสิทธิผลและประสิทธิภาพอย่างพร้อมเพรียงกันได้
วัตถุประสงค์ของการฝึกอบรม
1.เพื่อให้ผู้เข้าอบรมมีความรู้ และเข้าใจบทบาท หลักการต่างๆ ในการเป็นผู้ฝึกสอน/วิทยากรที่ดีและสามารถถ่ายทอดองค์ความรู้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
2. เพื่อให้ผู้เข้าอบรมสามารถใช้เทคนิคต่าง ๆ ในการสร้างความมั่นใจให้กับตนเองและพัฒนาตนเองอย่างต่อเนื่อง
3. เพื่อให้ผู้เข้าอบรมสามารถใช้กลยุทธ์และเทคนิคต่าง ๆ ในการเป็นผู้ฝึกสอน หรือ วิทยากรภายในองค์กร เพื่อทำให้การสอนแนะงานการนำเสนองาน (Presentation) มีประสิทธิภาพ น่าสนใจและเป็นที่ยอมรับของผู้ฟัง และตอบสนองกับเป้าหมายที่วางเอาไว้
4. เพื่อให้ผู้เข้าอบรมสามารถจูงใจ และให้ผู้รับฟังมีส่วนร่วมในการถ่ายทอดองค์ความรู้ รวมถึงสามารถปรับเปลี่ยนพฤติกรรมได้ ภายหลังจากการรับฟังการบรรยาย
เนื้อหาการอบรม :2 วัน จำนวน 12 ชั่วโมง
DayI
-ความจำเป็นและความสำคัญการมีผู้ฝึกสอน/วิทยากรภายในประจำองค์กร
-ความหมาย บทบาท หน้าที่และความสำคัญของการเป็นวิทยากรภายในองค์กร
-เทคนิคที่จำเป็นในการสร้างแผนการจัดฝึกอบรม (Training Plan), การวางผังการบรรยายและการสร้างแผนการสอน (Course Outline)ใน 3 องค์กรประกอบสำคัญ
-การเตรียมความพร้อมก่อนบรรยาย
-Workshop เรื่อง การสร้างTraining Plan, Course Outlineและการเตรียมความพร้อม ด้วยเทคนิคการจัดระบบความคิด
-จริยธรรม,ภาพลักษณ์และบุคลิกภาพ (ภายใน/ ภายนอก) สำคัญอย่างไรกับการเป็น ผู้ฝึกสอนหรือวิทยากร
-เทคนิคที่จำเป็นต่อการเป็นผู้ฝึกสอนและวิทยากรภายในองค์กร การพูดการนำเสนอข้อมูลและวิธีการสอน การจัดทำสื่อการสอน การนำเสนอกรณีศึกษา การสาธิต การแสดงบทบาท การสร้างสถานการณ์จำลอง เกมและกิจกรรม
-Workshopเรื่อง การใช้เทคนิคที่จำเป็นต่างๆ ในการแก้ไขสถานการณ์ต่างๆ
DayII
-เทคนิคในการจูงใจ โน้มน้าวผู้ฟัง การสร้างบรรยากาศการมีส่วนร่วม
-กลยุทธ์และเทคนิคในการถ่ายทอดความรู้ และการเป็นผู้ฝึกสอน/วิทยากรมืออาชีพ
-เทคนิคที่ทำให้เป็นผู้ฝึกสอน/วิทยากรที่ดี
-Workshopการเป็นผู้ฝึกสอนและวิทยากรภายใน (บรรยายจริง ในหัวข้อจำลอง ท่านล่ะ 15 นาที โดยจะต้องมีองค์ประกอบของหลักสูตรครบถ้วน) ในขณะที่บรรยาย จะมีการระดมสมอง (Brainstorming) วิเคราะห์ผู้ฝึกสอน (ผู้เข้าอบรม) และพร้อมกับนำเสนอแนวทางปรับปรุงแก้ไขเพื่อให้สามารถนำไปพัฒนาผู้อบรมได้จริง
สนใจจองที่นั่งติดต่ออีเมล์ [email protected] หรือโทร. 0944565756 www.ldthai.com
คุณสมบัติของผู้เข้าอบรม
ผู้ที่สนใจอยากพัฒนาทักษะด้านการสอนงาน, การนำเสนอ, การเป็นวิทยากรภายในองค์กร, การเป็นวิทยากรอาชีพ, หัวหน้างาน, ผู้จัดการ
อาจารย์สันติทัต ไพใหม่
วิทยากร, นักพูด, โค้ชด้านการพัฒนาตนเอง, HROD Coach, โค้ชด้านธุรกิจและผู้บริหาร, นักพูดสร้างแรงบันดาลใจ, ที่ปรึกษาด้านอุตสาหกรรมการผลิตและบริการ