On-Site Training : ทักษะผู้นำยุคใหม่และการสร้างสุดยอดทีม

20 กุมภาพันธ์ 2567

การเป็นหัวหน้างานยุคใหม่ที่จะประสบความสำเร็จตามที่ได้วางไว้ได้อย่างดี มีองค์ประกอบมากมายที่จะนำมาพิจารณาการทำงานให้บรรลุเป้าหมาย และไปในทิศทางเดียวกันนั้นจะใช้ความรู้ความสามารถเพียงด้านเดียวคงจะไม่พอต่อการถึงจุดหมายปลายทาง

 

การพัฒนาระดับความสามารถ (Quotient)ในด้านต่างๆ ของหัวหน้างานยุคใหม่นั้นจึงเป็นประเด็นที่สำคัญที่จะทำให้คนประสบความสำเร็จในการใช้ชีวิต และส่งให้ชีวิตการทำงานดีขึ้นไปด้วยจึงจะเรียกว่า การเป็นผู้นำและนักบริหารมืออาชีพ รวมทั้งหัวหน้างานยุคใหม่ต้องเข้าใจถึงความเปลี่ยนแปลง และพร้อมที่จะเป็นผู้นำในการเปลี่ยนแปลงเพื่อนำพาทีมงานไปสู่เป้าหมายขององค์กรที่วางไว้

 

การเปลี่ยนแปลงในโลกยุคปัจจุบัน เป็นการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นอย่าง รวดเร็ว กว้างขวาง และมีผลกระทบต่อทุกภาคส่วนในสังคม รวมถึงทุกองค์กร ที่ต้องปรับตัวให้เข้ากับยุคสมัย สามารถแข่งขันได้ และดำรงอยู่ได้อย่างยั่งยืน

 

สิ่งสำคัญที่เปรียบเสมือนเป็นการเสริมสร้างทางการพัฒนาให้องค์กร คือ การที่หัวหน้างานมีทักษะของผู้นำยุคใหม่และการสร้างทีมงานที่มีการทำงานไปในทิศทางเดียวกัน มีบุคลากรที่มีทักษะทางการคิดและการสร้างสรรค์นวัตกรรมใหม่อยู่เสมอ

 

ดังนั้นการฝึกคนในองค์กรให้มีความคิดเชิงสร้างสรรค์และสรรหานวัตกรรมใหม่ ถือได้ว่าเป็นกุญแจไขไปสู่การปรับปรุงและพัฒนางานอย่างเป็นระบบ ซึ่งเป็นกระบวนการที่สำคัญ รองรับการพัฒนาองค์กรทั้งในปัจจุบันและอนาคต ซึ่งหลักสูตรนี้จะช่วยให้หัวหน้างานได้ฝึกฝนทักษะต่างๆ เหล่านั้น โดยเน้นการฝึกคิดออกจากกรอบประสบการณ์เดิมและสามารถนำไปประยุกต์ใช้ในการปฏิบัติงานได้จริง

 

กระบวนการทำงานแนวใหม่ จะช่วยให้หัวหน้างานสามารถจัดการกับความคิดได้อย่างมีระบบ มีแบบแผนทำให้เกิดนวัตกรรมใหม่ๆ ที่มีประสิทธิภาพในทุกๆ ด้านในที่สุด เพราะฉะนั้นหัวหน้างานยุคใหม่จึงต้องเข้าใจภาวะผู้นำในยุคใหม่ และการสร้างทีมงานที่มีคุณภาพ เพื่อให้ได้เปรียบในการแข่งขันทางธุรกิจและให้ธุรกิจยั่งยืนต่อไป

 

การพัฒนาหัวหน้างานยุคใหม่ ให้มีภาวะผู้นำนั้น จำเป็นต้องให้ความสำคัญกับ ทั้ง4 ด้าน อันได้แก่

1.มีความรู้ความสามารถในงาน

2.มีทักษะการคิดเชิงกลยุทธ์

3.มีการพัฒนาทักษะภาวะผู้นำและการสร้างทีมงานที่มีคุณภาพ

4.มีภาวะผู้นำกับการเปลี่ยนแปลงและการสร้างนวัตกรรมได้

 

หัวหน้างานยุคใหม่ที่มีประสิทธิภาพ รวมทั้งมีภาวะผู้นำและการสร้างทีมงานที่มีคุณภาพ จะทำให้รู้จักตัวเอง,รู้จักพนักงาน,รู้จักองค์กรและมีทัศนคติเชิงบวก ทำให้การบริหารงานและทีมงานได้ตรงตามเป้าหมายที่ตั้งไว้ได้อย่างสัมฤทธิผลสำคัญโดยง่าย และเมื่อพัฒนาทีมงานโดยจัดการทำเอง จัดการพนักงาน จัดองค์การให้เหมาะสมและบริหารอย่างสร้างสรรค์แล้ว ก็จะกลายเป็นผู้นำและนักบริหารมืออาชีพที่ทรงคุณค่า

 

วัตถุประสงค์

1.เพื่อให้ผู้เข้าอบรมได้สร้างมุมมองการอยู่ร่วมกันที่แตกต่างแต่ไม่แตกแยกของผู้นำ โดยรู้จักตนเองและเข้าใจผู้อื่น สามารถปรับเปลี่ยนกระบวนการคิด เพิ่มประสิทธิผลของการสื่อสาร และสร้างความสัมพันธ์ที่ดีระหว่างตนเองกับผู้ใต้บังคับบัญชาได้อย่างลงตัว

2.เพื่อให้ผู้เข้าอบรมได้เกิดการเรียนรู้กระบวนการของ 5Qของผู้นำที่ดีที่มีภาวะของผู้นำ และนำไปสู่การปฏิบัติอย่างมีรูปแบบและเห็นผล มีมุมมองปัญหาและอุปสรรคของงานที่เจออยู่ด้วยมุมมองใหม่ๆ สามารถนำวิธีการ5Qของผู้นำมาใช้ในการแก้ปัญหาได้อย่างเหมาะสม

3.เพื่อให้ผู้เข้าอบรมได้เข้าใจหลักการบริหารทีมที่จะให้กลายเป็นสุดยอดทีมพร้อมทั้งการสร้างขวัญและกำลังใจในการทำงาน

4.เพื่อให้ผู้เข้าอบรมได้เข้าใจการสื่อสารอย่างมีประสิทธิภาพของผู้นำ และการอยู่ร่วมกันอย่างมีความสุข อันได้แก่ การละลายพฤติกรรมระหว่างหัวหน้างานและลูกน้อง

5.เพื่อให้ผู้เข้าอบรมได้ค้นพบ "ตัวตน" ของผู้นำในแบบฉบับที่แท้จริงของตนเอง สามารถนำพาตนเองและองค์กรที่มีความหลากหลายไปสู่จุดหมายที่ตั้งไว้

6.เพื่อให้ผู้เข้าอบรมได้เข้าใจหลักของ5Qผ่านกิจกรรมดังต่อไปนี้

o  สนุกกับการใช้IQ (Intelligence Quotient)แก้ปัญหาต่างๆ

o  พัฒนาความฉลาดทางอารมณ์ EQ (Emotional Quotient)

o  ก้าวข้ามอุปสรรค AQ (Adversity Quotient)อย่างกล้าหาญ

o  แสดงผลงานอย่างมีคุณค่าด้วยความเป็นเจ้าของ OQ (Optimist Quotient)

o  พัฒนาตนเองเพื่ออยู่ร่วมกับสังคม UQ (Unity Quotient)อย่างมีความสุข

 

หัวข้อสำคัญในการเรียนรู้

1.หลักและวิธีการจัดการงานและคนอย่างมีประสิทธิภาพด้วย 5Q

·      ใครคือคนที่องค์กรต้องการ

·      บทบาทหน้าที่ของหัวหน้างาน

·      ทฤษฎีพฤติกรรมมนุษย์เพื่อการจัดการ (การเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงาน)

§  Teamwork (การทำงานเป็นทีม)

§  Achievement Motivation (แรงจูงใจสู่ความสำเร็จ)

§  Accountability (ความรับผิดชอบอย่างผู้นำ) ซึ่งประกอบไปด้วย

-         มีวิสัยทัศน์ (Visioning Goal Setting & Leading others)

-         มีทักษะการจัดการกับการเปลี่ยนแปลง (Change Management Skills)

-         สอนงานเป็นและพัฒนาตัวเองอยู่เสมอ (Coaching & Develop others)

-         มีแนวกรอบแนวคิดในการทำงาน (Conceptual Thinking)

-         มีทักษะการบริหารจัดการทรัพยากรของ (Resource Management Skill)

-         กล้าตัดสินใจ (Decision Making)

-         มีทักษะการบริหารจัดการลูกน้อง (People Management Skills)

-         สามารถจูงใจลูกน้องได้ (Motivate Subordinate)

-         การบริหารความเสี่ยง (Risk Management)

-         การบริหารความขัดแย้งภายในองค์กร (Conflict Management)

§  Continuous Learning (การเรียนรู้อย่างต่อเนื่อง)

§  Creativity (ความคิดสร้างสรรค์)

2.เรียนรู้คน จากโมเดลผู้นำ4 ทิศ

3.การสร้างแรงผลักดันให้ลูกน้องทำงานและมุ่งมั่นทำงานให้บรรลุเป้าหมาย

·      ทฤษฎีการสร้างแรงจูงใจในการทำงาน

4.  เรียนรู้ทักษะการบริหารจัดการงานโดยสามารถวางแผนงานที่รับมอบหมาย สั่งงาน ติดตาม ความคุม และแก้ไข ปัญหาเบื้องต้น และรายงานผู้บังคับบัญชาได้อย่างมีประสิทธิภาพ

 

รูปแบบหลักสูตร

1.การบรรยาย                                       30 %

2.เกมส์ / กิจกรรมกลุ่ม / ฝึกปฏิบัติWorkshop  70%

 

อาจารย์อนุภาพ พันชำนาญ

 

โรงแรมเมอเวนพิค สุขุมวิท ซอย 15

 

บุคคลทั่วไป ท่านละ4,000 บาท

สมาชิก / โอนเงินก่อน1 สัปดาห์ ท่านละ3,700 บาท

ลงทะเบียน3 ท่านขึ้นไป ท่านละ3,400 บาท

ลงทะเบียน5 ท่านขึ้นไป ท่านละ3,000 บาท

**ราคายังไม่รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม7%**

 

รายละเอียดเพิ่มเติมคลิ๊กที่นี่

 

ลงทะเบียนOnline คลิ๊ก !!


บริษัท เคเอ็นซี เทรนนิ่ง เซ็นเตอร์ จำกัด

เลขที่ 98/83 หมู่ที่ 4ตำบลบึงยี่โถ อำเภอธัญบุรี จังหวัดปทุมธานี12130

www.knctrainingcenter.com

[email protected]
โทร. :02-157-9083,062-315-5283

วิทยากร

อาจารย์อนุภาพ พันชำนาญ



สถานที่อบรม (VENUE)

โรงแรมเมอเวนพิค สุขุมวิท 15 กรุงเทพฯ

วันและเวลาอบรม (DATE AND TIME)

20 กุมภาพันธ์ 2567 09.00 - 16.00 น.

จัดโดย

บริษัท เคเอ็นซี เทรนนิ่ง เซ็นเตอร์ จำกัด
เบอร์ติดต่อ : 062-3155283, 02-1579083

ค่าธรรมเนียม (FEE)

4000 (ไม่รวม ภาษีมูลค่าเพิ่ม 7%)

ผู้เข้าชม: 172 ครั้ง