การเป็นหัวหน้างานยุคใหม่ที่จะประสบความสำเร็จตามที่ได้วางไว้ได้อย่างดี มีองค์ประกอบมากมายที่จะนำมาพิจารณาการทำงานให้บรรลุเป้าหมาย และไปในทิศทางเดียวกันนั้นจะใช้ความรู้ความสามารถเพียงด้านเดียวคงจะไม่พอต่อการถึงจุดหมายปลายทาง
การพัฒนาระดับความสามารถ (Quotient)ในด้านต่างๆ ของหัวหน้างานยุคใหม่นั้นจึงเป็นประเด็นที่สำคัญที่จะทำให้คนประสบความสำเร็จในการใช้ชีวิต และส่งให้ชีวิตการทำงานดีขึ้นไปด้วยจึงจะเรียกว่า การเป็นผู้นำและนักบริหารมืออาชีพ รวมทั้งหัวหน้างานยุคใหม่ต้องเข้าใจถึงความเปลี่ยนแปลง และพร้อมที่จะเป็นผู้นำในการเปลี่ยนแปลงเพื่อนำพาทีมงานไปสู่เป้าหมายขององค์กรที่วางไว้
การเปลี่ยนแปลงในโลกยุคปัจจุบัน เป็นการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นอย่าง รวดเร็ว กว้างขวาง และมีผลกระทบต่อทุกภาคส่วนในสังคม รวมถึงทุกองค์กร ที่ต้องปรับตัวให้เข้ากับยุคสมัย สามารถแข่งขันได้ และดำรงอยู่ได้อย่างยั่งยืน
สิ่งสำคัญที่เปรียบเสมือนเป็นการเสริมสร้างทางการพัฒนาให้องค์กร คือ การที่หัวหน้างานมีทักษะของผู้นำยุคใหม่และการสร้างทีมงานที่มีการทำงานไปในทิศทางเดียวกัน มีบุคลากรที่มีทักษะทางการคิดและการสร้างสรรค์นวัตกรรมใหม่อยู่เสมอ
ดังนั้นการฝึกคนในองค์กรให้มีความคิดเชิงสร้างสรรค์และสรรหานวัตกรรมใหม่ ถือได้ว่าเป็นกุญแจไขไปสู่การปรับปรุงและพัฒนางานอย่างเป็นระบบ ซึ่งเป็นกระบวนการที่สำคัญ รองรับการพัฒนาองค์กรทั้งในปัจจุบันและอนาคต ซึ่งหลักสูตรนี้จะช่วยให้หัวหน้างานได้ฝึกฝนทักษะต่างๆ เหล่านั้น โดยเน้นการฝึกคิดออกจากกรอบประสบการณ์เดิมและสามารถนำไปประยุกต์ใช้ในการปฏิบัติงานได้จริง
กระบวนการทำงานแนวใหม่ จะช่วยให้หัวหน้างานสามารถจัดการกับความคิดได้อย่างมีระบบ มีแบบแผนทำให้เกิดนวัตกรรมใหม่ๆ ที่มีประสิทธิภาพในทุกๆ ด้านในที่สุด เพราะฉะนั้นหัวหน้างานยุคใหม่จึงต้องเข้าใจภาวะผู้นำในยุคใหม่ และการสร้างทีมงานที่มีคุณภาพ เพื่อให้ได้เปรียบในการแข่งขันทางธุรกิจและให้ธุรกิจยั่งยืนต่อไป
การพัฒนาหัวหน้างานยุคใหม่ ให้มีภาวะผู้นำนั้น จำเป็นต้องให้ความสำคัญกับ ทั้ง4 ด้าน อันได้แก่
1.มีความรู้ความสามารถในงานและการจัดการแก้ไขปัญหา
2.มีทักษะการคิดเชิงกลยุทธ์
3.มีการพัฒนาทักษะภาวะผู้นำและการสร้างทีมงานที่มีคุณภาพ
4.มีภาวะผู้นำกับการเปลี่ยนแปลงและการสร้างนวัตกรรมได้
หัวหน้างานยุคใหม่ที่มีประสิทธิภาพ รวมทั้งมีภาวะผู้นำและการสร้างานทีมงานที่มีคุณภาพ จะทำให้รู้จักตัวเอง, รู้จักพนักงาน,รู้จักองค์กรและมีทัศนคติเชิงบวก ทำให้การบริหารงานและทีมงานได้ตรงตามเป้าหมายที่ตั้งไว้ได้อย่างสัมฤทธิผลสำคัญโดยง่าย และเมื่อพัฒนาทีมงานโดยจัดการทำเอง จัดการพนักงาน จัดองค์การให้เหมาะสมและบริหารอย่างสร้างสรรค์แล้ว ก็จะกลายเป็นผู้นำและนักบริหารมืออาชีพที่ทรงคุณค่า
การพัฒนาระดับความสามารถในด้านต่างๆ ที่สำคัญ ของหัวหน้างานยุคใหม่นั้น จึงเป็นแนวทางที่องค์กรส่วนใหญ่อยากให้เกิดขึ้นกับผู้นำในองค์กรของตัวเองโดยการทำให้ผู้นำมี 5Qที่สูงขึ้น
IQ :ทักษะการคิดแก้ปัญหาอย่างฉลาด
EQ :การจัดการอารมณ์เชิงลบของตัวเอง
AQ :การเปลี่ยนอุปสรรคให้เป็นโอกาสที่ท้าทาย
OQ :การแสดงผลงานที่มีคุณค่า
UQ :การเป็นบุคคลที่มีจริยธรรมอันดี
การประยุกต์ใช้แนวทางบริหารจัดการQ (Quotient)ต่างๆ กับเป้าหมายในชีวิตหรืองานที่ได้รับ รวมถึงสภาพแวดล้อมในการปฏิบัติงาน ย่อมทำให้ผู้นำสามารถพิชิตเป้าหมายของตัวเอง และมีความสัมพันธ์ที่มีต่อบุคคลรอบข้าง รวมถึงการเป็นผู้นำที่มีจิตใจที่ดีขององค์กรและเข้าใจภาวะผู้นำกับการเปลี่ยนแปลงและการสร้างนวัตกรรมได้เป็นอย่างดี จะทำให้องค์กรประสบความสำเร็จอย่างแน่นอน
การเรียนรู้และนำแนวทางไปปรับปรุงเปลี่ยนแปลงตัวเองอย่างเข้าใจแนวทาง 5Qนั้น จะทำให้ผู้นำได้ใช้ศักยภาพที่มีอยู่แล้วอย่างเต็มที่และเต็มกำลัง นั่นก็หมายความว่าจะนำไปสู่การเปลี่ยนแปลงวิธีปฏิบัติงานของแต่ละบุคคลที่ดีขึ้น จึงทำให้เกิดผลงานที่มีประสิทธิผลมากยิ่งขึ้น
โดยที่Q แต่ละตัวจะสอดคล้องกันและทำงานร่วมกันอย่างเป็นระบบ โดยมีหลักของสมาธิเข้าไปเป็นพื้นฐานของสิ่งเหล่านี้จะทำให้เป็น5Qแบบยั่งยืนแล้วเป็นต้นแบบเพื่อองค์กรหรือหน่วยงานต่างๆ ได้นำไปปรับใช้ให้เข้ากับวัฒนธรรมขององค์กรตัวเอง
วัตถุประสงค์
1. เพื่อให้ผู้เข้าอบรมได้สร้างมุมมองการอยู่ร่วมกันที่แตกต่างแต่ไม่แตกแยกของผู้นำ โดยรู้จักตนเองและเข้าใจผู้อื่น สามารถปรับเปลี่ยนกระบวนการคิด เพิ่มประสิทธิผลของการสื่อสาร และสร้างความสัมพันธ์ที่ดีระหว่างตนเองกับผู้ใต้บังคับบัญชาได้อย่างลงตัว
2. เพื่อให้ผู้เข้าอบรมได้เกิดการเรียนรู้กระบวนการของ5Qของผู้นำที่ดีที่มีภาวะของผู้นำ และนำไปสู่การปฏิบัติอย่างมีรูปแบบและเห็นผล มีมุมมองปัญหาและอุปสรรคของงานที่เจออยู่ด้วยมุมมองใหม่ๆ สามารถนำวิธีการ5Q ของผู้นำมาใช้ในการแก้ปัญหาได้อย่างเหมาะสม
3. เพื่อให้ผู้เข้าอบรมได้เข้าใจหลักการบริหารทีมที่จะให้กลายเป็นสุดยอดทีมพร้อมทั้งการสร้างขวัญและกำลังใจในการทำงาน
4. เพื่อให้ผู้เข้าอบรมได้เข้าใจการสื่อสารอย่างมีประสิทธิภาพของผู้นำ และการอยู่ร่วมกันอย่างมีความสุข อันได้แก่ การละลายพฤติกรรมระหว่างหัวหน้างานและลูกน้อง
5. เพื่อให้ผู้เข้าอบรมได้ค้นพบ "ตัวตน" ของผู้นำในแบบฉบับที่แท้จริงของตนเอง สามารถนำพาตนเองและองค์กรที่มีความหลากหลายไปสู่จุดหมายที่ตั้งไว้
6. เพื่อให้ผู้เข้าอบรมได้เข้าใจหลักของ5Qผ่านกิจกรรมดังต่อไปนี้
o สนุกกับการใช้IQ (Intelligence Quotient)แก้ปัญหาต่างๆ
o พัฒนาความฉลาดทางอารมณ์EQ (Emotional Quotient)
o ก้าวข้ามอุปสรรคAQ (Adversity Quotient)อย่างกล้าหาญ
o แสดงผลงานอย่างมีคุณค่าด้วยความเป็นเจ้าของOQ (Optimist Quotient)
o พัฒนาตนเองเพื่ออยู่ร่วมกับสังคมUQ (Unity Quotient) อย่างมีความสุข
ลักษณะของการอบรม
เป็นการเรียนรู้เนื้อหาวิชาการ ผ่านWork Shopและกิจกรรมต่างๆ โดยใช้เครื่องมือที่เรียกว่า5Q (IQ EQ OQ AQ UQ ) และODที่หลากหลายประเภทผสมผสานกัน เพื่อเชื่อมโยงเนื้อหาทางวิชาการให้เข้าใจได้ง่าย สามารถนำไปปรับใช้กับการปฏิบัติงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ
วิธีการ
1. บรรยายเนื้อหาวิชาการประกอบการทำWork Shopและกิจกรรมกลุ่ม ในอัตราส่วน เนื้อหาวิชาการ70 : Work Shopกิจกรรม30
2. การใช้เครื่องมือทางด้าน5QและOD toolsและเทคนิคการฝึกอบรมหลายประเภท เช่น
· Ai (Appreciative Inquiry)
· Dialogue สุนทรียะสนทนา
· เกมพฤติกรรม
· Work Shop
· การระดมความคิดด้วย5Q
· Clip VDOและอื่นๆ
หัวข้อสำคัญในการเรียนรู้
· หลักและวิธีการจัดการงานและคนอย่างมีประสิทธิภาพด้วย5Q
o ใครคือคนที่องค์กรต้องการ
o บทบาทหน้าที่ของหัวหน้างาน
o ทฤษฎีพฤติกรรมมนุษย์เพื่อการจัดการ (การเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงาน)
· Teamwork (การทำงานเป็นทีม)
· Achievement Motivation (แรงจูงใจสู่ความสำเร็จ)
· Accountability (ความรับผิดชอบอย่างผู้นำ) ซึ่งประกอบไปด้วย
- มีวิสัยทัศน์(Visioning Goal Setting & Leading others )
- มีทักษะการจัดการกับการเปลี่ยนแปลง(Change Management Skills)
- สอนงานเป็นและพัฒนาตัวเองอยู่เสมอ(Coaching & Develop others)
- มีแนวกรอบแนวคิดในการทำงาน(Conceptual Thinking)
- มีทักษะ
วิทยากร
: อาจารย์อนุภาพ พันชำนาญ
จัสมินซิตี้ สุขุมวิท 23 ใกล้ BTS อโศก กทม. ** สถานที่อาจมีการเปลี่ยนแปลง
22 กันยายน 2563 09.00-16.00
ศูนย์ส่งเสริมและพัฒนาทรัพยากรมนุษย์จำกัด
เบอร์ติดต่อ : 090 645 0992 , 089 606 0444
3900 (ไม่รวม ภาษีมูลค่าเพิ่ม 7%)