การบำรุงรักษาเชิงป้องกันและการจัดการงานบำรุงรักษาสมัยใหม่ Modern management for Preventive maintenan

8 เมษายน 2565


หลักการและเหตุผล

               ปัจจุบันการแข่งขันด้านการผลิตที่มีความรุนแรง ทำให้บริษัทใดที่ทำให้เครื่องจักรมีการผลิตได้อย่างต่อเนื่อง ย่อมก่อให้เกิดความได้เปรียบในเชิงธุรกิจมากกว่าคู่แข่ง และยังเป็นแนวทางในการเพิ่มผลผลิต เป็นการใช้เวลาในการผลิตได้อย่างคุ้มค่า จากการที่เครื่องจักรเป็นปัจจัยหลักในการผลิต ซึ่งหากเครื่องจักรเกิดการขัดข้องเดินไม่เต็มสมรรถนะ หรือหยุดเสียหายโดยไม่ได้คาดการณ์ไว้ ย่อมส่งผลกระทบต่อการส่งมอบที่ล่าช้าและ คุณภาพของผลิตภัณฑ์ที่ต่ำลง อีกทั้งยังส่งผลกระทบต่อขวัญและกำลังใจของพนักงานอันเนื่องมาจากการควบคุม เครื่องจักรที่ไม่ปลอดภัย ดังนั้นจึงมีความจำเป็นต้องทำการป้องกันเพื่อไม่ให้เครื่องจักรขัดข้อง หรือหยุดโดยการใช้ระบบการบำรุงรักษาเชิงป้องกัน (Preventive Maintenance)เพื่อให้เครื่องจักรมีความพร้อมในการใช้งานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพอย่างต่อเนื่อง

แผนกซ่อมบำรุงเครื่องจักรของโรงงาน มักจะพบปัญหาการขาดอะไหล่ในการนำมาซ่อมและบำรุงรักษาเครื่องจักร เช่น บางครั้งมีอะไหล่สำรองในส่วนที่ไม่จำเป็นของเครื่องจักร หรืออาจจะมีอะไหล่ที่สำรองไว้มากหรือน้อยเกินไป เป็นต้น ดังนั้น การที่มีอะไหล่สำหรับการซ่อมตามที่ต้องการตามกำหนดเวลา การจัดเตรียมการสำรองอะไหล่ที่ใช้ในการซ่อมบำรุงอย่างมีระบบ จึงเป็นปัจจัยหลักที่สำคัญที่ทำให้สามารถลดปัญหาการขาดแคลนอะไหล่ และซ่อมบำรุงได้อย่างมีประสิทธิภาพและตรงเวลา

โดยหลักสูตรนี้จะช่วยเน้นให้ผู้เข้าอบรมเข้าใจถึงปัจจัยที่มีผลต่อการผลิต การสร้างจิตสำนึกต่อการรักษาผลผลิตของบริษัท และเน้นการวางแผนซ่อมบำรุงเชิงป้องกัน PM (Preventive Maintenance)เพื่อให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุดด้วยต้นทุนที่ต่ำและคุ้มค่า โดยใช้ข้อมูลและประวัติของเครื่องจักรเพื่อให้สามารถนำไปประยุกต์ใช้งานได้ รวมทั้งการคิดอัตราประสิทธิภาพการผลิตของเครื่องจักรได้อีกด้วย

 

วัตถุประสงค์

1. เพื่อให้ผู้เข้าอบรมมีความรู้ความเข้าใจในการบำรุงรักษาเครื่องจักรที่ถูกต้อง
2.เพื่อให้ผู้เข้าอบรมสามารถเพิ่มประสิทธิภาพในการผลิตและการบริการซ่อมบำรุง
3.เพื่อให้ผู้เข้าอบรมเข้าใจธรรมชาติของกระบวนการผลิตด้วยเครื่องจักร

4. เพื่อให้ผู้เข้าอบรมมีแนวคิดในการลดความสูญเสียของเครื่องจักรในระบบการผลิต

 

หัวข้อการอบรม

1.แนวคิดในการเพิ่มประสิทธิภาพการผลิต

1.1องค์ประกอบของธุรกิจ ต้นทุน กำไร และรายได้

1.2พื้นฐานการผลิตตามหลักการ4M+1I

1.3องค์ประกอบที่สำคัญในสายการผลิตที่ประสบผลสำเร็จ

1.4ปัจจัยสำคัญที่ทำให้เกิดความสูญเสียในกระบวนการผลิต
2.
ความสูญเสียหลัก 6ประการของเครื่องจักร

3.รู้จักกับความหมายและการบำรุงรักษาแบบต่าง ๆ
          3.1การบำรุงรักษาด้วยตนเอง (Autonomous Maintenance)
          3.2การปรับปรุงเฉพาะเรื่อง (Individual Improvement)
          3.3การบำรุงรักษาเชิงวางแผน (Planned Maintenance)
          3.4การบำรุงรักษาเชิงคุณภาพ (Quality Maintenance)
          3.5การบำรุงรักษาทวีผล (Productive Maintenance)

4.เอกสารที่เกี่ยวข้องในระบบซ่อมบำรุงเชิงป้องกันและที่ใช้ร่วมกับระบบ ISO

5.การวางแผนการซ่อมบำรุง การเก็บข้อมูล และการปรับปรุง
6.การเพิ่มประสิทธิภาพในการซ่อมบำรุงเครื่องจักร จากพนักงานหน้าเครื่องและช่างเทคนิค
7.การวัดประสิทธิภาพและวิเคราะห์การใช้งานเครื่องจักรร่วมกันด้วยค่า OEE, MTBF, MTTR

8.การแก้ไขปัญหาในการซ่อมบำรุงด้วย Cause-Effect Diagram , Tree Diagram , Relation Diagram
9.การระดมสมองเพื่อช่วยให้งานซ่อมบำรุงประสบความสำเร็จ

10. Workshop การซ่อมบำรุงที่ทุกคนมีส่วนร่วม

 

 

 

 

 

 

กำหนดการ

 เวลา

           หัวข้อ

                       เนื้อหา/ รายละเอียด

รูปแบบการเรียนการสอน

 9.00- 9.15 น.

กิจกรรมละลายพฤติกรรม

สร้างสมาธิและการยอมรับซึ่งกันและกัน

 

ทำกิจกรรมให้เกิดการยอมรับและสร้างความสัมพันธ์ที่ดี

9.15- 10.30 น.

 

 

 

 

 

แนวคิดในการเพิ่มประสิทธิภาพการผลิต

 

 

 

 

 

1.แนวคิดในการเพิ่มประสิทธิภาพการผลิต

1.1องค์ประกอบของธุรกิจ ต้นทุน กำไร และรายได้

1.2 พื้นฐานการผลิตตามหลักการ4M+1I

1.3 องค์ประกอบที่สำคัญในสายการผลิตที่ประสบผลสำเร็จ

1.4ปัจจัยสำคัญที่ทำให้เกิดความสูญเสียในกระบวนการผลิต

วิทยากรบรรยาย

และแลกเปลี่ยนเรียนรู้

10.30- 10.45น.

พักเบรก

 

 

10.45 - 12.00น.

 

รู้จักกับการบำรุงรักษาแบบต่างๆ

2. ความสูญเสียหลัก6ประการของเครื่องจักร

3. รู้จักกับความหมายและการบำรุงรักษาแบบต่างๆ

  3.1 การบำรุงรักษาด้วยตนเอง (Autonomous Maintenance)

  3.2 การปรับปรุงเฉพาะเรื่อง (Individual Improvement)

  3.3 การบำรุงรักษาเชิงวางแผน (Planned Maintenance)

  3.4 การบำรุงรักษาเชิงคุณภาพ (Quality Maintenance)

  3.5 การบำรุงรักษาทวีผล (Productive Maintenance)

วิทยากรบรรยาย

และแลกเปลี่ยนเรียนรู้

12.00 - 13.00น.

พักเที่ยง

 

 

13.00 -13.15น.

กิจกรรมกระตุ้นผู้เข้ารับการอบรม

ให้แต่ละกลุ่มนั่งรวมกันหลังได้รวมตัวก่อนพักเที่ยง โดยวิทยากรถามปัญหาที่พบในการทำงาน

วิทยากรใช้คำถามแต่ละบุคคล

13.15-14.00 น.

 

การเพิ่มประสิทธิภาพในการซ่อมบำรุงเครื่องจักร

4. เอกสารที่เกี่ยวข้องในระบบซ่อมบำรุงเชิงป้องกันและที่ใช้ร่วมกับระบบISO

5. การวางแผนการซ่อมบำรุง การเก็บข้อมูล และการปรับปรุง

6. การเพิ่มประสิทธิภาพในการซ่อมบำรุงเครื่องจักร จากพนักงานหน้าเครื่องและช่างเทคนิค

7. การวัดประสิทธิภาพและวิเคราะห์การใช้งานเครื่องจักรร่วมกันด้วยค่าOEE, MTBF, MTTR

วิทยากรบรรยาย

และแลกเปลี่ยนเรียนรู้

Workshop

14.30-14.45น.

พักเบรก

 

 

14.45 -16.00น.

 

การเพิ่มประสิทธิภาพในการซ่อมบำรุงเครื่องจักร (ต่อ)

8.การแก้ไขปัญหาในการซ่อมบำรุงด้วย Cause-Effect Diagram, Tree Diagram, Relation Diagram

9.การระดมสมองเพื่อช่วยให้งานซ่อมบำรุงประสบความสำเร็จ

10. Workshopการซ่อมบำรุงที่ทุกคนมีส่วนร่วม

วิทยากรบรรยาย

และแลกเปลี่ยนเรียนรู้

Workshop

 

กลุ่มเป้าหมาย

หัวหน้างาน ช่างเทคนิค พนักงาน และผู้ที่สนใจทั่วไป

 

รูปแบบการสัมมนา

1.การบรรยาย                                             40 %

2.เกมส์ / กิจกรรมกลุ่ม / ฝึกปฏิบัติWorkshop และการนำเสนอผลงานกลุ่ม               40%

3.กรณีศึกษา และดูภาพยนตร์ 20 %


ประโยชน์ที่คาดว่าจะได้รับ

           

1.พนักงานมีความรู้ ความเข้าใจเกี่ยวกับแนวทางการซ่อมบำรุงเชิงป้องกัน

2.พนักงานเข้ามามีส่วนร่วมในการพัฒนาปรับปรุงเครื่องจักรเพื่อยกระดับคุณภาพและประสิทธิภาพ

ในการทำงานอย่างต่อเนื่อง

3.สามารถประยุกต์ใช้ในการทำงานและขยายผลภายในองค์กรต่อไป

4.พนักงานสามารถประยุกต์ใช้เทคนิคการปรับปรุงเครื่องจักร และควบคุมการใช้งานอะไหล่ร่วมกัน

 

ระยะเวลา       1 วัน จำนวนวันละ 6 ชั่วโมง เวลา 9.00- 16.00 น.


วิทยากร


วิทยากร: อาจารย์ไมตรี บุญขันธ์



สถานที่อบรม (VENUE)

สถานที่ โรงแรมโนโวเทล ซอยสุขุมวิท 20 ใกล้ BTS อโศก กรุงเทพ หรือเลือกอบรมเป็นแบบ Online ผ่าน Program Zoom ได้

วันและเวลาอบรม (DATE AND TIME)

8 เมษายน 2565 9.00-16.00 น.

จัดโดย

ศูนย์ส่งเสริมและพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ จำกัด
เบอร์ติดต่อ : 090 645 0992 , 089 606 0444

ค่าธรรมเนียม (FEE)

2500 (ไม่รวม ภาษีมูลค่าเพิ่ม 7%)

ผู้เข้าชม: 1778 ครั้ง