ประเทศไทยมีชายฝั่งทะเล แบ่งเป็นชายฝั่งด้านอ่าวไทยและชายฝั่งด้านทะเลอันดามัน ในปัจจุบันพื้นที่ชายฝั่งทะเลถูกใช้ประโยชน์อย่างหลากหลาย เช่น จากกิจกรรมการท่องเที่ยวและนันทนาการ การประมงและเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำ เป็นแหล่งอยู่อาศัยของชุมชนริมทะเล อุตสาหกรรม ท่าเรือ การคมนาคมทางน้ำ เป็นต้น ชายฝั่งทะเลจึงมีความสำคัญในทุกๆด้านทั้งทางด้านเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อม
ซึ่งในเรื่องปัญหาการกัดเซาะชายฝั่งเป็นปัญหาที่ใหญ่ที่เกิดขึ้นในประเทศไทยทั้งในส่วนของอ่าวไทยและทะเลอันดามัน และยังไม่มีแนวทางการดำเนินการจัดการกับปัญหานี้อย่างถูกวิธี โดยปัญหาการกัดเซาะชายฝั่งที่เกิดขึ้นเป็นปัญหาที่สร้างผลกระทบต่อประเทศไทยในหลายด้าน อาจจำแนกได้4ประการ ได้แก่
· ด้านเศรษฐกิจ คือ ธุรกิจที่ได้รับผลกระทบโดยตรงคือ ภาคการท่องเที่ยว จากชายฝั่งถูกกัดเซาะจนเกิดสภาพเสื่อมโทรม สูญเสียแนวชายหาดที่สวยงาม
· ด้านสิ่งแวดล้อม คือระบบนิเวศชายฝั่ง ได้แก่ ระบบนิเวศชายหาด ป่าชายเลน หญ้าทะเล และปะการัง
· ด้านสังคม คือ ชุมชนริมฝั่งทะเลต้องอพยพย้ายถิ่นฐานไปยังพื้นที่อื่นจากพื้นที่ที่ถูกกัดเซาะ
· ด้านคุณภาพชีวิต คือ ชุมชนที่ได้รับผลกระทบจากการกัดเซาะ สูญเสียที่ดินและทรัพย์สิน
การกัดเซาะชายฝั่ง เป็นกระบวนการเปลี่ยนแปลงของชายฝั่งทะเลที่เกิดขึ้นตลอดเวลาจากการกัดเซาะของคลื่นหรือลม ตะกอนจากที่หนึ่งไปตกทับถมในอีกบริเวณหนึ่ง สาเหตุหลักของการเปลี่ยนแปลงชายฝั่งแบ่งได้เป็น 2สาเหตุหลักคือ
· การเปลี่ยนแปลงชายฝั่งโดยกระบวนการตามธรรมชาติ เกิดจากการกัดเซาะของคลื่นและลม พายุ น้ำท่วม หรือจากกิจกรรมของสิ่งมีชีวิตในบริเวณนั้น โดยคลื่นเป็นตัวการสำคัญในการเปลี่ยนแปลงลักษณะของตะกอนและทรายชายฝั่ง
· การเปลี่ยนแปลงชายฝั่งโดยกิจกรรมของมนุษย์ กิจกรรมของมนุษย์ถือเป็นปัจจัยสำคัญในการเปลี่ยนแปลงของแนวชายฝั่ง จากการมุ่งเน้นพัฒนาด้านเศรษฐกิจและสังคมโดยใช้ทรัพยากรเป็นฐานการผลิต แต่กลับให้ความสำคัญในการรักษาและฟื้นฟูทรัพยากรน้อยเกินไป ทำให้ทรัพยากรที่มีความสำคัญถูกทำลายและเสื่อมโทรมลงทุกขณะ กิจกรรมที่เร่งกระบวนการกัดเซาะชายฝั่งให้รุนแรงมากขึ้น เช่น การพัฒนาแหล่งท่องเที่ยวทางทะเลและชายฝั่ง,การสร้างเขื่อน, การทำลายป่าชายเลน เป็นต้น
ประเทศไทยมีชายฝั่งทะเล แบ่งเป็นชายฝั่งด้านอ่าวไทยและชายฝั่งด้านทะเลอันดามัน ในปัจจุบันพื้นที่ชายฝั่งทะเลถูกใช้ประโยชน์อย่างหลากหลาย เช่น จากกิจกรรมการท่องเที่ยวและนันทนาการ การประมงและเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำ เป็นแหล่งอยู่อาศัยของชุมชนริมทะเล อุตสาหกรรม ท่าเรือ การคมนาคมทางน้ำ เป็นต้น ชายฝั่งทะเลจึงมีความสำคัญในทุกๆด้านทั้งทางด้านเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อม
ซึ่งในเรื่องปัญหาการกัดเซาะชายฝั่งเป็นปัญหาที่ใหญ่ที่เกิดขึ้นในประเทศไทยทั้งในส่วนของอ่าวไทยและทะเลอันดามัน และยังไม่มีแนวทางการดำเนินการจัดการกับปัญหานี้อย่างถูกวิธี โดยปัญหาการกัดเซาะชายฝั่งที่เกิดขึ้นเป็นปัญหาที่สร้างผลกระทบต่อประเทศไทยในหลายด้าน อาจจำแนกได้4ประการ ได้แก่
· ด้านเศรษฐกิจ คือ ธุรกิจที่ได้รับผลกระทบโดยตรงคือ ภาคการท่องเที่ยว จากชายฝั่งถูกกัดเซาะจนเกิดสภาพเสื่อมโทรม สูญเสียแนวชายหาดที่สวยงาม
· ด้านสิ่งแวดล้อม คือระบบนิเวศชายฝั่ง ได้แก่ ระบบนิเวศชายหาด ป่าชายเลน หญ้าทะเล และปะการัง
· ด้านสังคม คือ ชุมชนริมฝั่งทะเลต้องอพยพย้ายถิ่นฐานไปยังพื้นที่อื่นจากพื้นที่ที่ถูกกัดเซาะ
· ด้านคุณภาพชีวิต คือ ชุมชนที่ได้รับผลกระทบจากการกัดเซาะ สูญเสียที่ดินและทรัพย์สิน
การกัดเซาะชายฝั่ง เป็นกระบวนการเปลี่ยนแปลงของชายฝั่งทะเลที่เกิดขึ้นตลอดเวลาจากการกัดเซาะของคลื่นหรือลม ตะกอนจากที่หนึ่งไปตกทับถมในอีกบริเวณหนึ่ง สาเหตุหลักของการเปลี่ยนแปลงชายฝั่งแบ่งได้เป็น 2สาเหตุหลักคือ
· การเปลี่ยนแปลงชายฝั่งโดยกระบวนการตามธรรมชาติ เกิดจากการกัดเซาะของคลื่นและลม พายุ น้ำท่วม หรือจากกิจกรรมของสิ่งมีชีวิตในบริเวณนั้น โดยคลื่นเป็นตัวการสำคัญในการเปลี่ยนแปลงลักษณะของตะกอนและทรายชายฝั่ง
· การเปลี่ยนแปลงชายฝั่งโดยกิจกรรมของมนุษย์ กิจกรรมของมนุษย์ถือเป็นปัจจัยสำคัญในการเปลี่ยนแปลงของแนวชายฝั่ง จากการมุ่งเน้นพัฒนาด้านเศรษฐกิจและสังคมโดยใช้ทรัพยากรเป็นฐานการผลิต แต่กลับให้ความสำคัญในการรักษาและฟื้นฟูทรัพยากรน้อยเกินไป ทำให้ทรัพยากรที่มีความสำคัญถูกทำลายและเสื่อมโทรมลงทุกขณะ กิจกรรมที่เร่งกระบวนการกัดเซาะชายฝั่งให้รุนแรงมากขึ้น เช่น การพัฒนาแหล่งท่องเที่ยวทางทะเลและชายฝั่ง,การสร้างเขื่อน, การทำลายป่าชายเลน เป็นต้น
คุณสมบัติของผู้เข้าอบรม
o วิศวกรโยธา และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง ของกรมโยธาธิการและผังเมือง กรมเจ้าท่า กรมทรัพยากรน้ำ กรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง กระทรวงคมนาคม กระทรวงมหาดไทย วิศวกรโยธาของหน่วยงานปกครองส่วนท้องถิ่นของจังหวัดที่ติดทะเล
คุณกัมปนาท ชีวะปรีชา
· ผู้เชี่ยวชาญด้านท่าเรือและวิศวกรรมชายฝั่ง